แผนของประกันเดินทางเหมาะสมกับลักษณะการเดินทางของเราไหม

เพราะในการเดินทางแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป เช่นสำหรับผู้ที่ไปติดต่องานอาจต้องมีการต่อเครื่อง และเดินทางหลายที่แผนประกันก็ควรจะคุ้มครองในส่วนของ การล่าช้าของเที่ยวบิน การยกเลิกเที่ยวบิน หรือแม้แต่กระเป๋าเดินทางสูญหายหรือทรัพย์สินเสียหาย สำหรับใครที่ไปท่องเที่ยว แล้วอาจมีกิจกรรมที่ ประกันไม่คุ้มครอง เช่น การกระโดดบันจี้จั้ม หรือ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงมาก ทำให้ประกัยภัยไม่คุ้มครอง  สำหรับใครที่มีโรคประจำตัว หรือต้องเดินทางไปในประเทศที่มีค่าครองชีพสูงๆก็จะต้องมองหาประกันที่ดูแลเรื่องของค่ารักษาพยาบาลและการส่งตัวกลับประเทศในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นเราควรศึกษารายละเอียดของประกันภัยให้ดีก่อนทำประกันเพื่อให้ตอบโจทย์กับการเดินทางของเรามาที่สุด

วงเงินคุ้มครองประกันเดินทาง สำหรับส่วนนี้ก็ พิจารณาจากความเหมาะสมของแผนประกันและ วงเงินที่คุ้มครองเราว่า รับได้แค่ไหน อย่างที่เราได้บอกไปว่าแต่ละคนมีความจำเป็นที่ต่างกันบางคนเน้นที่คุ้มครองเรื่องอุบัติเหตุ บางคนเรื่องการเดินทางล่าช้า หรือบางคนที่ต้องให้ความสำคัญกับค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ เบี้ยประกันและวงเงินคุ้มครองก็จะต่างกันออกไปด้วย เพราะฉะนั้น เราก็ควรเลือกพิจารณาจากความเหมาะสม ระหว่างค่าเบี้ยประกันและวงเงินที่ได้คุ้มครอง ครับว่าคุ้มค่ากันแค่ไหน

การเบิกจ่ายค่าคุ้มครองจากประกันเดินทาง ถือเป็นปัญหาหนึ่งที่เรามักจะได้ยินกันเรื่องการเบิกจ่ายเงินชดเชยความเสียหายล่าช้า เพราะว่าส่วนมากแล้ว ประกันจะให้เราเป็นคนสำรองจ่าย ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นแล้วนำมาเบิกกับบริษัทประกันภัยหลัง ดังนั้นลองศึกษาข้อมูลจากผู้ใช้บริการของประกันแต่ละที่ดูว่ามีผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง เพราะโดยส่วนมากแล้วทางบริษัทประกันจะใช้ระยะเวลาในการจ่ายเงินชดเชยหลังจากได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้วไม่เกิน 1 สัปดาห์