การเลือกขนาดเครื่องอัดลมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เครื่องอัดลม เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นอู่ซ่อมรถขนาดเล็กๆหรือศูนย์บริการขนาดใหญ่แต่ขนาดของปั๊มลมและการจัดการระบบลมจะแตกต่างกันไปรวมถึงลักษณะของงานที่ทำอยู่ด้วย ลักษณะของงานซ่อมรถยนต์สามารถแบ่งเป็นประเภทการทำงานได้ 3 ประเภทดังนี้

1. ประเภทงานสีและตัวถัง

งานประเภทงานสีและตัวถังจะใช้เครื่องมือที่ต้องใช้ลมในการทำงานเสียส่วนใหญ่ และในการใช้งานเครื่องอัดลมแต่ละครั้งจะใช้เป็นเวลานานจึงจำเป็นต้องใช้ลมในปริมาณที่มากพอสมควร รวมถึงต้องใช้พื้นที่ในการทำงานมากทำให้ขนาดของอู่หรือศูนย์บริการมีขนาดใหญ่ การจัดการระบบลมจะต้องมีการคำนวณจากพื้นที่และการใช้ปริมาณลมเพื่อใช้ในการเดินท่อลมและการเลือกขนาดของถังพักลม การเลือกขนาดของเครื่องอัดลมในลักษณะงานประเภทนี้จะแบ่งเป็น 3 ขนาด
– อู่ขนาดเล็ก ให้เลือกเครื่องอัดลมขนาด 3 แรงม้าขึ้นไปขนาดถัง 150 ลิตรกระแสไฟมีทั้ง 220 v และ 380 v แล้วแต่กระแสไฟฟ้าของอู่
– อู่ขนาดกลาง ให้เลือกเครื่องอัดลมขนาด 5 แรงม้าขึ้นไปขนาดถัง 245 ลิตร ถ้ามีเครื่องมือซ่อม ขนาดใหญ่เช่นเครื่องดึงตังถังหรือห้องพ่นสี ควรเลือกขนาด 7.5 แรงม้าถัง 300 ลิตร กระแสไฟควรเป็น 380 v
– อู่ขนาดใหญ่หรือศูนย์บริการ ให้เลือกเครื่องอัดลมขนาด 10- 15 แรงม้า ถัง 300 – 500 ลิตร พร้อมถังพักลมขนาด 500-1000 ลิตร

2. ประเภทช่วงล่างและยาง

งานประเภทช่วงล่างและยางจะมีเครื่องมือที่ใช้ลมไม่มากนัก แต่เครื่องมือเหล่านี้จะต้องใช้ลมที่มีแรดันสูงเช่นใช้กับเครื่องถอดยาง ใช้กับบล็อกลมสำหรับถอดล้อ ใช้กับเครื่องเติมลมยาง โดยเฉพาะศูนย์บริการที่ทำรถบรรทุกใหญ่ต้องใช้แรงดันลมที่มากพอสมควร แต่การทำงานของเครื่องมือแต่ละตัวจะใช้เวลาไม่มาก ปริมาณลมที่ใช้จะน้อยกว่าประเภทงานสี ลม การเลือกขนาดของเครื่องอัดลมในลักษณะงานประเภทนี้จะแบ่งเป็น 3 ขนาด
– อู่ขนาดเล็ก ให้เลือกเครื่องอัดลมขนาด 3 แรงม้าขึ้นไปขนาดถัง 105 ลิตรกระแสไฟมีทั้ง 220 v และ 380 v แล้วแต่กระแสไฟฟ้าของอู่
– อู่ขนาดกลาง ให้เลือกเครื่องอัดลมขนาด 5 แรงม้าขึ้นไปขนาดถัง 155 ลิตร ถ้ามีเครื่องที่ใช้ลม หลายตัว ควรเลือกถังขนาด 245 ลิตร กระแสไฟควรเป็น 380 v
– อู่ขนาดใหญ่หรือศูนย์บริการ ให้เลือกเครื่องอัดลมขนาด 7.5-10 แรงม้าขนาดถัง 245 – 304 ลิตรถ้ามีทำรถบรรทุกขนาดใหญ่ให้เพิ่มถังพักลมขนาด 500 ลิตร

3. ประเภทเครื่องยนต์และทั้วไป

งานประเภทซ่อมเครื่องยนต์และซ่อมทั้วไปจะมีการใช้เครื่องมือลมค่อนข้างน้อย เครื่องมือส่วนใหญ่ที่ใช้จะเป็นประเภท HAND TOOLS และเครื่องมือพิเศษ ปริมาณการใช้ลมจึงน้อยกว่า 2 ประเภทแรก การเลือกขนาดของเครื่องอัดลมในลักษณะงานประเภทนี้จะแบ่งเป็น 4 ขนาด
– อู่ขนาดเล็ก , ประดับยนต์ และคาร์แคร์ ให้เลือกปั๊มลมขนาด 1-2 แรงม้าขนาดถัง 70-105 ลิตรกระแสไฟ 220v
– อู่ขนาดกลาง ให้เลือกปั๊มลมขนาด 3 แรงม้าขึ้นไปขนาดถัง 105-155 ลิตร กระแสไฟเป็น 220v และ 380 v แล้วแต่กระแสไฟฟ้าของอู่
– อู่ขนาดใหญ่ ให้เลือกปั๊มลมขนาด 5 แรงม้าขึ้นไป ถัง 245 ลิตร กระแสไฟฟ้าเป็น 380 v
– ศูนย์บริการ จะเลือกขนาดของปั๊มลมตามขนาดของศูนย์ขนาดตั้งแต่ 5 – 7.5แรงม้าขนาด ถัง 245-304 ลิตรกระแสไฟฟ้า 380 v

การเลือกขนาดของเครื่องอัดลม สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามสภาพการใช้งานจริง